ตลาด Forex เป็นตลาดทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการเทรดรายวันมากกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โบรกเกอร์ Forex เป็นบุคคลสำคัญในตลาดนี้ที่ช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าถึงตลาด Forex ระดับโลกและดำเนินการเทรดได้
การดำเนินงานเป็นโบรกเกอร์ Forex อาจมีความท้าทาย โดยเฉพาะการดูแลสภาพคล่องในภูมิภาคต่างๆ โบรกเกอร์ควรเลือกผู้ให้บริการสภาพคล่องที่ดำเนินงานภายใต้เขตอำนาจตามกฎหมายต่างๆ และสามารถสร้างสภาพคล่องในกลุ่มสินทรัพย์และภูมิภาคที่หลากหลายได้สูง กระบวนการนี้มีความละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะเมื่อโบรกเกอร์ที่มีธุรกิจที่ดำเนินการอยู่และมีฐานลูกค้าจำนวนมากกำลังมองหาผู้ให้บริการสภาพคล่องเพื่อที่จะขยายการดำเนินงานในภูมิภาคใหม่ ในกรณีดังกล่าว โบรกเกอร์อาจต้องการโซลูชันโดยเฉพาะเพื่อจัดการสภาพคล่อง เช่น Liquidity Bridge
ในบทความนี้ เราจะมาดูผู้ให้บริการสภาพคล่อง 5 อันดับแรกของโบรกเกอร์ Forex กัน ผู้ให้บริการเหล่านี้ได้รับเลือกโดยอิงจากชื่อเสียง การให้บริการ และรายการเขตอำนาจตามกฎหมาย
Ausprime
AC Markets Europe Limited ดำเนินงานภายใต้ชื่อทางการค้า Ausprime และให้บริการสภาพคล่องที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้า ซึ่งมีทั้งโบรกเกอร์, Hedge Fund และหน่วยงานอื่นๆ
Ausprime ให้บริการสภาพคล่องตราสารการเงินมากกว่า 600 รายการ รวมถึง Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และโลหะ ด้วยการให้บริการการเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องระดับที่ 1 โดยตรง Ausprime จะช่วยให้ลูกค้าได้รับราคาที่ดีและสเปรดที่แคบที่สุด ในฐานะที่เป็นโบรกเกอร์ B2B ชั้นนำ บริษัทจะปฏิบัติตามกรอบการกำกับดูแลทางการเงินของหลากหลายภูมิภาคด้วยใบอนุญาต MiFID II และ CySEC ของบริษัท
Tel-Aviv Stock Exchange
The Tel-Aviv Stock Exchange (TASE) มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของเศรษฐกิจอิสราเอลด้วยการให้บริการโครงสร้างตลาด ในฐานะที่เป็นตลาดหลักทรัพย์เดียวในอิสราเอลที่มีเกณฑ์การเข้าถึงสูงในด้านของการกำกับดูแลและโครงสร้างทางเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ TASE จึงมีบทบาทที่สำคัญ ทั้งรัฐบาลและบริษัทอิสราเอลต่างก็พึ่งพาตลาดของ TASE ในด้านสภาพคล่องและเงินทุน
Tel-Aviv Stock Exchange อำนวยความสะดวกในการรวบรวมรายชื่อและการเทรดหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์มากมายหลากหลาย ซึ่งรวมถึง ตราสารหนี้, หุ้น, พันธบัตรรัฐบาล, ตั๋วเงินคลัง, ETF, หุ้นกู้แปลงสภาพ, Single Stock Options, Options กับ Futures ของดัชนีหุ้น และ Options กับ Futures ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
CMC Markets
CMC Markets ช่วยให้โบรกเกอร์สามารถเข้าถึงการเทรดได้มากกว่า 10,000 ตัว รวมถึงคู่สกุลเงิน, โลหะ, ดัชนี, พลังงาน, สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งทำให้โบรกเกอร์สามารถขยายพอร์ตของตนได้ โดยได้รับการกำกับดูแลโดย FCA และ BaFin ซึ่งเป็น Stakeholder ที่เชื่อถือได้ในสหราชอาณาจักรและเยอรมนี
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา CMC Markets ได้รับรางวัลมากกว่า 50 รางวัล ซึ่งแสดงถึงคุณภาพของบริการและความมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับลูกค้า การได้รับการยอมรับนี้มีเหตุผลหลักมาจากแพลตฟอร์มการเทรดด้วยเว็บ Next Generation และแอปมือถือแบบ Native ของบริษัท
EXANTE
EXANTE ใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ในการทำให้สามารถเข้าถึงตลาดการเงินระดับโลกได้มากกว่า 50 ตลาด และให้บริการโซลูชันโบรกเกอร์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง EXANTE ซึ่งได้รับใบอนุญาตโดย FCA ให้บริการเทรดกับลูกค้ามืออาชีพและลูกค้าสถาบันในสหราชอาณาจักร
บริษัทช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงตราสารทางการเงินมากมายหลกหลาย รวมถึง หุ้นทั่วโลก 24,000 รายการ, IPO ใหม่, ETF, ตราสารหนี้, Futures และ Options จากบัญชีที่มีหลากหลายสกุลเงินบัญชีเดียว
Saxo Bank
Saxo Group เป็นธนาคารที่ให้บริการสภาพคล่องสำหรับการจัดการความเสี่ยงและดำเนินงานตราสารทางการเงินหลากหลาย ธนาคารนี้ตั้งอยู่ในโคเปนเฮเกนและมีสำนักงานอยู่ในศูนย์กลางทางการเงินหลัก เช่น เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร อัมสเตอร์ดัม สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ฮ่องกง และสวิตเซอร์แลนด์
การเลือกผู้ให้บริการสภาพคล่องที่เชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับโบรกเกอร์ที่ต้องการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม นอกจากการเข้าถึง Liquidity Pool แล้ว โบรกเกอร์ยังต้องเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการเทรดอีกด้วย หากต้องการจัดการสภาพคล่องจากผู้ให้บริการเดียว โบรกเกอร์สามารถใช้เกตเวย์ ในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ MetaTrader หรือไม่เช่นนั้น หากต้องการรวบรวมสภาพคล่องและข้อมูลตลาดจากผู้ให้บริการมากมายหรือในเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ โบรกเกอรจะต้องมองหาโซลูชันที่ซับซ้อนกว่า เช่น Liquidity Bridge